บทเรียนของพ่อรวย

ผมแว่บกลับมาเล่าในสิ่งที่ผมได้จากหนังสือตามสัญญาครับ

หน้า 26, จากเล่ม Retire Young, Retire Rich

พ่อรวยของผมคือพ่อของเพื่อนที่ดีที่สุดของผม ได้สอนบทเรียนที่แตกต่างออกไปในเรื่องเงินแก่ผม พ่อรวยมักจะถามและพูดในสิ่งต่างๆ อย่างเช่น

  1. "คุณใช้เวลานานเท่าไรที่จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านเหรียญ" แล้วพ่อก็จะถามอีกว่า "แล้วคุณใช้เวลาแค่ไหนที่จะกู้เงิน 1 ล้านเหรียญ"
  2. "ในระยะยาว ใครกันที่จะรวยขึ้น คนที่ทำงานทั้งชีวิตเพื่อพยายามออมเงินให้ได้สักล้านหนึ่งยังงั้นเหรอ หรือว่าคนที่รู้วิธีที่จะกู้เงิน 1 ล้านในอัตราดดอกเบี้ย 10% ต่อปี และยังรู้อีกว่าจะเอาเงินนี้ไปลงทุนอย่างไรเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมา 25% ต่อปี"
  3. ใครกันที่ธนาคารอยากให้กู้เงิน คนที่ทำงานหนักเพื่อแลกกับเงินงั้นหรือ? หรือคนที่รู้วิธีในการกู้เงินและใช้เงินเพื่อให้มันทำงานหนักแทนเขา
  4. คุณต้องเป็นคนแบบไหนแล้วต้องรู้อะไรบ้าง ที่จะโทรไปหาธนาคารแล้วพูดว่า "ผมอยากจะกู้เงินสักล้านเหรียญครับ" แล้วพนักงานธนาคารจะตอบกลับมาว่า "ผมพร้อมให้คุณเซ็นวัญญากู้เงินในอีก 20 นาทีนี้เลยครับ"
  5. ทำไมรัฐบาลจึงเก็บภาษีจากการออม แต่เว้นภาษีให้กับการก่อหนี้
  6. ใครกันที่ต้องมีความฉลาดทางการเงินที่มากกว่าและมีความรู้ทางการเงินที่ดีกว่า คนที่มีเงินออมหนึ่งล้านเหรียญ หรือว่าคนที่มีหนี้อยู่ 1 ล้านเหรียญ
  7. ใครกันที่มีความฉลาดทางการเงินมากกว่า คนที่ทำงานหนักเพื่อแลกกับเงิน กับคนที่ให้เงินทำงานหนักแทนเขา
  8. หากว่าคุณเลือกวิธีศึกษาเองได้ คุณจะเลือกที่จะไปโรงเรียนเพื่อเรียนรู้ที่จะทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมา หรือว่าเลือกไปเรียนเพื่อได้รู้ถึงวิธีการที่จะมีเงินเพื่อให้มันทำงานหนักแทนคุณ
  9. ทำไมธนาคารถึงยินดีที่จะให้คุณกู้เงินเพื่อไปเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่ยอมให้คุณกู้เพื่อไปเก็งกำไรในตลาดหุ้น
  10. ทำไมคนที่ทำงานหนักที่สุดและมีเงินออมถึงจ่ายภาษีมากกว่าคนที่ทำงานน้อยกว่าและมีหนี้สินมากกว่า
เอากับเขาสิครับ อ่านแล้วก็คิดทุกที
เจอกันคราวหน้าครับ

พลังทวี (leverage)

ผมโตมาในยุคที่ทุก Product ของ Apple ผลักดันให้คำว่า Minimalism เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยการออกแบบของพวกเขา

รวมถึงเป็นยุคที่ลัทธิ Zen ถูกพูดถึงมากที่สุด

จึงถือเป็นโชคดีของผมได้เกิดมาแล้วได้ยินคำว่า ทำน้อย-ได้มาก อยู่บ่อยๆ

ครั้งแรกที่ผมได้ยินคำนี้ก็สะดุ้งถึงความหมายของคำที่สื่อถึงความฉลาด และความไม่ยึดติดในการทำงาน ใน process ซ้ำซากเดิมๆ (หรือ process ที่คนอื่นวางมาไว้ให้ แล้วเราก็ไม่คิดจะจับผิด process นั้นบ้าง ว่ามีวิธีที่ดีกว่านั้นไหม)


ทันทีที่ผมซื้อหนังสือใหม่มาวันนี้ เป็นหนึ่งในหนังสือขายดีในซีรี่ส์เล่มม่วง Rich Dad ครับ
หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า Retire Young, Retire Rich

ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คน อาจจะมีแล้ว แต่ผมก็เพิ่งซื้อเล่มนี้ หลังจากที่อ่านซีรี่ส์เล่มม่วงนี้มาได้สองเล่มแล้ว

แค่คำนำของหนังสือก็คว้าจิตใต้สำนึกผมไปชั่ววูบ
เขาบอกว่า ...

ผู้นำคนนั้น ...

"Con­trary to popu­lar belief, there are no rules for revolutionaries…just as there are no lea­ders who don’t con­ti­nually strive to earn a posi­tion of lea­dership."

-- Hugh MacLeod

From the last paragraph of this his blog post: http://gapingvoid.com/2012/03/28/it-takes-courage/

ธรรมะ = ธรรมดา = ธรรมชาติ

ธรรมะ = ธรรมดา = ธรรมชาติ คำเดียวกัน

แค่มีสติ ตื่นรู้ และเข้าใจโลก เข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ แค่นี้ก็เป็นคนมีธรรมะแล้วป่าวว
ะ? ไม่ต้องเป็นถึงอุลตร้าแมนหรอก

ส่วน อธรรม ก็ไม่ได้แปลว่า ก็อตซิลล่า แต่ก็แปลว่า การปฏิเสธรรมชาติ การเดินหันหลังหนีออกจากสิ่งธรรมดา การไม่ทำใจให้ยอมรับในสิ่งธรรมด

ธรรมะไม่ชนะอธรรมหรอก เพราะธรรมะไม่มีเหี้ยอะไรจะต้องทำกับอธรรม ...คำว่าอธรรมน่ะ แม่งไม่เคยมีอยู่จริง

คนที่ทำความเลวจนคนรอบข้างเกลียด ไม่เชื่อใจ ไม่ยอมรับ แบบนี้ไม่ใช่อธรรม แต่นี่แหละ ธรรมะชัดๆเลย เพราะคนที่มองไม่เห็นคนอื่น คนอื่นแม่งก็จะมองไม่เห็นเขาด้วยเช่นกัน อยู่แล้ว
... "ธรรมดา" จะตาย

ผมไม่ได้พูดเรื่องซีเรียสนะ ผมพูดเรื่องธรรมดาๆ อยู่ :)

TheAvatarProject คลอดแล้ว


ช่วงที่ผมหายไปจาก blog นี้ ก็เพราะมัวแต่ปั่นโปรเจ็กต์อยู่นั่นละครับ
ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก เชิญไปเล่นเลยดีกว่า ที่นี่ ครับ :)
Facebook page ที่นี่ ครับ

ผู้ประกอบการกระดาษเช็ดตูด (The Toilet Paper Entrepreneur)

วันนี้ผมไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งมา น่าสนใจมากๆ
ที่บอกว่าน่าสนใจนี่คือ แค่ชื่อหนังสือก็น่าสนใจแล้วครับ






ขนาดประโยคแรกของบทแรกจากหนังสือเล่มนี้ก็ยังสะกิดติ่งสมองให้คิดเลยครับ เขาว่าอย่างนี้
"The world is more malleable than you think and it's waiting for you to hammer it into shape."-- Bono
แปล: โลกใบนี้มันว่านอนสอนง่ายกว่าที่เราคิด มันแค่รอเวลาที่เราจะเดินเข้าไปสั่งมันเท่านั้นเอง


แน่นอนว่า ความหมายของกระดาษทิชชู่ในบริบทนี้ก็คือ ความง่าย, ความชุ่ย, หรือการที่จะสื่อว่าจริงๆ แล้ว ธุรกิจไม่ใช่เรื่องของเงินทุนอันหนาปั้ก, การใส่สูทและการจับมือ, การมีห้องทำงานที่แสนเลิศหรูและมีพนักงานพรั่งพร้อม แต่ธุรกิจนั้นเริ่มต้นด้วยใจต่างหาก

ความชิล บางทีก็อยู่ที่ใจ ไม่ใช่ข้างนอก

ความชิล บางทีก็อยู่ที่ใจ ไม่ใช่ข้างนอก

นึกขึ้นได้ทุกครั้งที่เห็นคุณลุงขายถั่ว, เด็กปั๊ม, คนเช็ดกระจก, พ่อค้าขายปลา, สามล้อ, แท็กซี่, ยาม ฯลฯ ร้องเพลงไปด้วยตอนทำงาน ทั้งๆที่งานหนักขนาดนั้น

ผมก็เป็นโรคจิต เจอคนพวกนี้ไม่ได้เลย อารมณ์ดีตามทุกที บางทีก็ไปแย่งเขาร้องเพลงท่อนต่อไป 555 เสือกจริงๆ

ใช้ jQuery ตรวจสอบว่ามีคนใช้ iPhone, iPod, iPad เข้าเว็บไซต์ของเรา

ผมจำต้องเขียน code โดยให้แสดงผลต่างกันระหว่าง Desktop browser กับ iOS Browser อย่างเช่น iPod, iPad หรือ iPhone

ซึ่งเราสามารถสั่งให้ Browser แสดงผลต่างกันได้ด้วย function ง่ายๆ นี้ครับ

function isiPhone(){
return (
(navigator.platform.indexOf("iPhone") != -1) ||
(navigator.platform.indexOf("iPod") != -1) ||
(navigator.platform.indexOf("iPad") != -1)
);
}

เวลานำไปใช้ก็เช่น

if( isiPhone() ) {
   window.alert("You are browing this site by iOS browser");
}

ที่มา: http://jquery-howto.blogspot.com/2010/09/iphone-ipod-detection-using-jquery.html

TheAvatarProiect (v. Alpha 2): มีผู้หญิงแล้วครับ ^^



จริงๆ แล้วส่วนกระโปรงหลายอันเลย มีเบี้ยวแล้วมีเกินออกมาจากเสื้อด้วย
เดี๋ยวคงต้องทยอยวาด + เก็บอีกเยอะเลยครับ

วันนี้ไม่ไหวแล้ว ง่วง ไปนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมา Code ส่วนรองเท้าต่อ :)

"ไม่ว่าคุณจะผลิตสินค้าอะไรอยู่ อย่างไรเสียก็ต้องมีคนทำได้ถูกกว่า เร็วกว่า และดีกว่าคุณเสมอ"

ประโยคนี้เป็นประโยคหนึ่ง จากบทที่ 2 ของหนังสือ The Evil Plans (ปลุกปิศาจในตัวคุณ)

การซื้อขายความเชื่อมีตลาดที่กว้างใหญ่ไม่สิ้นสุด

เรามีชีวิตอยู่เพื่อค้นหาความหมาย เรามีชีวิตอยู่เพื่อช่วยให้ผุ้อื่นค้นหาความหมายในชีวิตพวกเขา ไม่มีอะไรจะสำคัญไปมากกว่านี้อีกแล้ว
คิดเรื่องคุณสมบัติของสินค้าให้น้อยหน่อย คิดเรื่องศักยภาพของมนุษย์เราให้มากหน่อย สินค้าของคุณบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์บ้างหรือเปล่า
ยิ่งสินค้าของคุณมีความหมายต่อมนุษย์มากเท่าไร ไอเดียของคุณก็ยิ่งดีมากเท่านั้น และแบรนด์ของคุณก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น
เดี๋ยวนี้เพียงแค่คนเชื่อว่าสินค้าของคุณมีคุณสมบัติตามที่คุณกล่าวอ้างมันไม่เพียงพออีกแล้ว ผู้บริโภคต้องเชื่อในตัวคุณและสิ่งที่คุณทำด้วย ถ้าพวกเขาไม่เชื่อ พวกเขาก็จะไปมองหาเอาจากที่อื่น

การบ่น ไมได้ทำให้เราเข้าใกล้จุดหมาย

การเดินเพื่อเข้าใกล้ "จุดหมาย"
ทีละก้าว ... ทีละก้าว ...
ใช้การ "กระทำ"
ใช้แรงเพื่อออกเดิน
ทีละนิด เพื่อให้เข้าใกล้จุดหมายไปเรื่อยๆ

เพราะฉะนั้น "การไม่ออกแรง"
สื่อความหมายตรงกันข้ามกับ การเข้าใกล้จุดหมาย
มันคือการปฏิเสธในการเข้าใกล้จุดหมาย