พลังทวี (leverage)

ผมโตมาในยุคที่ทุก Product ของ Apple ผลักดันให้คำว่า Minimalism เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยการออกแบบของพวกเขา

รวมถึงเป็นยุคที่ลัทธิ Zen ถูกพูดถึงมากที่สุด

จึงถือเป็นโชคดีของผมได้เกิดมาแล้วได้ยินคำว่า ทำน้อย-ได้มาก อยู่บ่อยๆ

ครั้งแรกที่ผมได้ยินคำนี้ก็สะดุ้งถึงความหมายของคำที่สื่อถึงความฉลาด และความไม่ยึดติดในการทำงาน ใน process ซ้ำซากเดิมๆ (หรือ process ที่คนอื่นวางมาไว้ให้ แล้วเราก็ไม่คิดจะจับผิด process นั้นบ้าง ว่ามีวิธีที่ดีกว่านั้นไหม)


ทันทีที่ผมซื้อหนังสือใหม่มาวันนี้ เป็นหนึ่งในหนังสือขายดีในซีรี่ส์เล่มม่วง Rich Dad ครับ
หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า Retire Young, Retire Rich

ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คน อาจจะมีแล้ว แต่ผมก็เพิ่งซื้อเล่มนี้ หลังจากที่อ่านซีรี่ส์เล่มม่วงนี้มาได้สองเล่มแล้ว

แค่คำนำของหนังสือก็คว้าจิตใต้สำนึกผมไปชั่ววูบ
เขาบอกว่า ...



หนังสือเล่มก่อนๆ ของผมพูดถึงพลังอำนาจของกระแสเงินสด ดังพ่อรวยกล่าวไว้ว่า "กระแสเงินสดเป็นคำศัพท์ที่สำคัญที่สุดในโลกการเงิน ส่วนคำศัพท์สำคัญเป็นอันดับสองได้แก่ พลังทวี (leverage)" พ่อรวยกล่าวอีกว่า "พลังทวีอาจเป็นตัวบ่งที่แบ่งคนรวยกับคนไม่รวยออกจากกัน" พ่อรวยอธิบายต่อว่า พลังทวีเป็นอำนาจอย่างหนึ่งที่สามารถใช้ไปในทางที่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษแก่ตัวเราก็ได้ ก็เหมือนกับพลังอำนาจอื่นๆ นั่นแหละ บางคนใช้อำนาจทำประโยชน์ ขณะที่บางคนใช้อำนาจในทางที่ผิด และก็มีบางคนกลัวที่จะใช้อำนาจ พ่อรวยกล่าวว่า "เหตุที่มีเพียงไม่ถึง 5% ของคนอเมริกันเท่านั้นที่เป็นคนรวยก็คือ มีคนเพียง 5% เท่านั้นที่รู้ถึงวิธีการใช้พลังทวีนี้ คนจำนวนมากที่อยากเป็นคนรวยแต่ไม่ประสบผลในอันที่จะสร้างความร้ำรวยให้กับตัวเองนั้น เป็นเพราะพวกเขาใช้พลังทวีนี้ผิด และคนส่วนใหญ่ก็ไม่อาจเป็นคนรวยได้เพราะพวกเขากลัวที่จะใช้พลังทวีนี้"

อาร์คีมีดีสได้กล่าวถึงความสำคัญของการใช้แรงน้อยแต่ได้ผลมากไว้ว่า "หาคานงัด (lever) ยาวมากๆ ให้สักอันหนึ่ง ข้าพเจ้าจะงัดโลกให้ดู"

ด้วยความที่รู้อะไรมาบ้าง ทันทีที่อ่าน paragraph นี้ ผมก็ตีความเท่าที่ผมรู้คือ leverage ในความหมายนี้อาจจะหมายถึงความรู้ที่ใช้หากระแสเงินสด, ความรู้จะที่สร้างทรัพย์สิน หรือระบบอะไรขึ้นมา เพื่อให้มันทำเงินให้เราเป็น passive income (แบบที่ไม่ต้องใช้แรงทำงานเพื่อแลกกับเงิน) ผมนึกถึงพวกธุรกิจให้เช่า, ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ หรือกระทั่งธุรกิจอะไรก็ตามที่เราสร้างขึ้นเอง แต่ระบบมันรันไปเอง จนเราไม่ต้องเข้าไปดูแลแล้ว เราทำหน้าที่ตัดสินใจและบริหารก็พอ เวลาที่เหลือเราก็ไปเที่ยวได้

อันที่จริง ผมค่อนข้างมั่นใจว่าตีความผิด หรือถ้ามันจะถูก มุมมองมันก็แคบไป :)

หลังจากนี้ ผมจะเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้จริงจัง แล้วจะมาเล่าให้ฟังเป็นระยะนะครับว่าผมได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้บ้าง

ใครอ่านคำนำที่ผมเล่าให้ฟังแล้วติดใจ ไปซื้อมาอ่านพร้อมกันเลยก็ได้ครับ ซีรี่ส์หนังสือเล่มม่วงนี่ ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ นะครับ :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น